-
Notifications
You must be signed in to change notification settings - Fork 1
Commit
This commit does not belong to any branch on this repository, and may belong to a fork outside of the repository.
1 parent
40031f2
commit 4e06f0d
Showing
28 changed files
with
407 additions
and
1 deletion.
There are no files selected for viewing
13 changes: 13 additions & 0 deletions
13
data/2025/01/19/Government News _1_0f21c850-47c0-4694-b29d-683813406872.txt
This file contains bidirectional Unicode text that may be interpreted or compiled differently than what appears below. To review, open the file in an editor that reveals hidden Unicode characters.
Learn more about bidirectional Unicode characters
Original file line number | Diff line number | Diff line change |
---|---|---|
@@ -0,0 +1,13 @@ | ||
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-PM to attend WEF AM25 in Swiss Federation | ||
|
||
|
||
วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 | ||
PM to attend WEF AM25 in Swiss Federation | ||
PM to attend WEF AM25 in Swiss Federation | ||
January 19, 2025, Government Spokesperson Jirayu Houngsub disclosed that Prime Minister Paetongtarn Shinawatra is scheduled to attend the WEF Annual Meeting 2025 (WEF AM25) in Davos, the Swiss Federation during January 20-25, 2025. | ||
The 55th WEF or WEF AM25 will be held under the theme: “Collaboration for the Intelligent Age”. Participants will discuss harnessing advanced technologies to promote trade and investment toward prosperity under the current context of complex and challenging global geopolitical situation. | ||
With WEF’s role that influences public awareness and leading global media, the Prime Minister will take the opportunity to present the Government's vision and important policies, emphasizing Thailand's potential and readiness to be driven into the digital age. This is in a bid to build confidence among investors and expand opportunities for the Thai private sector in the global market. She will also have bilateral discussions with global leaders from government, business, international organizations, and civil society, especially from the European region. | ||
The Prime Minister’s delegation includes Deputy Prime Minister and Minister of Finance Pichai Chunhavajira, Deputy Prime Minister and Minister of Digital Economy and Society Prasert Jantararuangtong, Minister of Foreign Affairs Maris Sangiampongsa, Minister of Agriculture and Cooperatives Narumon Pinyosinwat, Minister of Commerce Pichai Naripthaphan, President of Thailand Trade Representatives Nalinee Taveesin, and deputy chief adviser to the Prime Minister Surapong Suebwonglee. | ||
The Prime Minister will arrive at Zurich Airport, Switzerland on Monday, January 20, 2025 at 14.45 hrs. (Zurich time), and will return to Bangkok’s Suvarnabhumi Airport in the morning of Saturday, January 25, 2025. | ||
|
||
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92543 |
13 changes: 13 additions & 0 deletions
13
data/2025/01/19/ข่าวคณะโฆษก _1_a6b4be42-5c67-4a5e-82ac-8b95ec7b1295.txt
This file contains bidirectional Unicode text that may be interpreted or compiled differently than what appears below. To review, open the file in an editor that reveals hidden Unicode characters.
Learn more about bidirectional Unicode characters
Original file line number | Diff line number | Diff line change |
---|---|---|
@@ -0,0 +1,13 @@ | ||
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล- ไทยแลนด์..บนเวทีระดับโลก นายกฯแพทองธาร นำ รมต.หลายกระทรวงร่วมประชุม WEF AM25 แสดงวิสัยทัศน์และนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ย้ำศักยภาพและความพร้อมของไทยที่จะขับเคลื่อนไปสู่ยุคดิจิทัล | ||
|
||
|
||
วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 | ||
ไทยแลนด์..บนเวทีระดับโลก นายกฯแพทองธาร นำ รมต.หลายกระทรวงร่วมประชุม WEF AM25 แสดงวิสัยทัศน์และนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ย้ำศักยภาพและความพร้อมของไทยที่จะขับเคลื่อนไปสู่ยุคดิจิทัล | ||
มั่นใจประชุมครั้งนี้ไทยเปิดตลาดใหม่ได้เยอะ | ||
วันนี้ (19 มกราคม 2568) เวลา 08.30 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 (WEF Annual Meeting 2025: WEF AM25) ระหว่างวันที่ 20-25 มกราคม 2568 ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส | ||
โดยการประชุม WEF AM25 จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 55 ภายใต้หัวข้อหลัก “Collaboration for the Intelligent Age” เพื่อหารือเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูงให้เกิดคุณประโยชน์สูงสุดในการสนับสนุนการค้าการลงทุนซึ่งจะนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ในบริบทของสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โลกในปัจจุบันที่สลับซับซ้อนและท้าทาย | ||
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะใช้เวที WEF แสดงวิสัยทัศน์และนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ย้ำศักยภาพและความพร้อมของไทยที่จะขับเคลื่อนไปสู่ยุคดิจิทัล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และขยายโอกาสของภาคเอกชนไทยในตลาดโลก เนื่องจากการประชุม WEF นับเป็นเวทีที่มีอิทธิพลสูงมากต่อความตระหนักรู้ของสาธารณชนและสื่อมวลชนชั้นนำระดับโลก ทั้งยังจะมีการพบหารือทวิภาคีกับระหว่างผู้แทนระดับสูงจากภาครัฐ องค์การระหว่างประเทศ และผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทชั้นนำของโลก โดยเฉพาะจากภูมิภาคยุโรป | ||
ผู้แทนรัฐบาลไทยที่ได้รับเชิญและร่วมคณะประกอบด้วย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการคลัง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ศาตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางนลินี ทวีสิน ประธานผู้แทนการค้าไทย และนายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี | ||
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางถึงท่าอากาศยานนครซูริก สมาพันธรัฐสวิส ในวันพรุ่งนี้ (จันทร์ที่ 20 มกราคม 2568) เวลา 14.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเวลาที่นครซูริกช้ากว่ากรุงเทพมหานคร 6 ชั่วโมง และจะปฏิบัติภารกิจตั้งแต่วันที่ 20 - 25 มกราคม 2568 โดยจะเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันเสาร์ที่ 25 มกราคม 2568 ช่วงเช้า | ||
|
||
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92538 |
12 changes: 12 additions & 0 deletions
12
data/2025/01/19/ข่าวคณะโฆษก _2_6c97487d-f307-4efe-b6ed-eeb4722dbcfb.txt
This file contains bidirectional Unicode text that may be interpreted or compiled differently than what appears below. To review, open the file in an editor that reveals hidden Unicode characters.
Learn more about bidirectional Unicode characters
Original file line number | Diff line number | Diff line change |
---|---|---|
@@ -0,0 +1,12 @@ | ||
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล- นักธุรกิจไทยเฮ..นายกฯบินดาวอส เปิดดีล FTA ฉบับแรกสำเร็จกับ “4ประเทศในยุโรป” ลงนาม 23 มค.นี้ ชี้ถือเป็นโอกาสทองของไทยในรอบหลายสิบปี | ||
|
||
|
||
วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 | ||
นักธุรกิจไทยเฮ..นายกฯบินดาวอส เปิดดีล FTA ฉบับแรกสำเร็จกับ “4ประเทศในยุโรป” ลงนาม 23 มค.นี้ ชี้ถือเป็นโอกาสทองของไทยในรอบหลายสิบปี | ||
นักธุรกิจไทยเฮ..นายกฯบินดาวอส เปิดดีล FTA ฉบับแรกสำเร็จกับ “4ประเทศในยุโรป” ลงนาม 23 มค.นี้ ชี้ถือเป็นโอกาสทองของไทยในรอบหลายสิบปี | ||
วันนี้ (19 มกราคม 2568) เวลา 10.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลประสบความสำเร็จในการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association: EFTA) ที่จะมีการลงนามในวันที่ 23 มกราคมนี้ ในการประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลงดังกล่าว | ||
FTA ไทย - EFTA ถือเป็น FTA หรือข้อตกลงทางการค้า ฉบับแรกที่ไทยทำกับกลุ่มประเทศในยุโรป ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 4 ประเทศ ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ โดยถือเป็น FTA สมัยใหม่ที่มีข้อตกลงที่ครอบคลุมอย่างรอบด้าน มีมาตรฐานสูง สอดคล้องกับการพัฒนาที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยจะทำให้ปัจจุบัน ไทยมี FTA ทั้งหมด 16 ฉบับ กับ 23 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ | ||
ทั้งนี้ ไทยและ EFTA มีมูลค่าการค้าในช่วงเดือนมกราคม–พฤศจิกายน 2567 รวมกว่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 24.94 โดยสินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ (1) อัญมณีและเครื่องประดับ (2) นาฬิกาและส่วนประกอบ (3) เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ (4) อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และ (5) เครื่องใช้สำหรับเดินทาง | ||
นายจิรายุกล่าวต่อไปว่า “การเจรจาจัดทำ FTA จะช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้า ดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดโลก โดยเฉพาะในยุโรปที่มีมาตรฐานสูง ทั้งนี้ การเจรจา FTA ถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ และการส่งออกของไทย สนับสนุนให้ไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญของภูมิภาค” | ||
|
||
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92539 |
13 changes: 13 additions & 0 deletions
13
data/2025/01/19/ข่าวคณะโฆษก _3_43d4469e-fa7a-403a-a1b9-2808fd5e6582.txt
This file contains bidirectional Unicode text that may be interpreted or compiled differently than what appears below. To review, open the file in an editor that reveals hidden Unicode characters.
Learn more about bidirectional Unicode characters
Original file line number | Diff line number | Diff line change |
---|---|---|
@@ -0,0 +1,13 @@ | ||
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-รัฐบาลเตือน ผู้ใหญ่วัยเกษียณ หลังพบ มิจฉาชีพ คอลฯ หลอกกลุ่มนี้มากขึ้น ขอลูกหลาน ช่วยดูแลผู้สูงวัยในครอบครัว ตรวจสอบเบอร์โทรก่อนรับ เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อและสูญเสียทรัพย์สิน | ||
|
||
|
||
วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 | ||
19/01/2568 | ||
พิมพ์ | ||
รัฐบาลเตือน ผู้ใหญ่วัยเกษียณ หลังพบ มิจฉาชีพ คอลฯ หลอกกลุ่มนี้มากขึ้น ขอลูกหลาน ช่วยดูแลผู้สูงวัยในครอบครัว ตรวจสอบเบอร์โทรก่อนรับ เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อและสูญเสียทรัพย์สิน | ||
รัฐบาลเตือน ผู้ใหญ่วัยเกษียณ หลังพบ มิจฉาชีพ คอลฯ หลอกกลุ่มนี้มากขึ้น ขอลูกหลาน ช่วยดูแลผู้สูงวัยในครอบครัว ตรวจสอบเบอร์โทรก่อนรับ เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อและสูญเสียทรัพย์สิน | ||
วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 เวลา 09.00 น. นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพมีจำนวนมากขึ้น มีการเตรียมการเป็นอย่างดี และทำกันเป็นขบวนการเพื่อหลอกลวงให้ประชาชนสูญเสียทรัพย์สินจากทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็น SMS หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมุ่งเป้าหมายหลอกลวงไปที่กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้เกษียณเพิ่มขึ้น ด้วยวิธีการต่าง ๆ อาทิ การหลอกลวงซื้อขายสินค้าออนไลน์ โดยหลอกให้ซื้อขายสินค้าแต่ไม่มีเจตนาที่จะส่งสินค้าให้จริง การหลอกลงทุน โดยหลอกชักชวนให้ลงทุนที่มีผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น ที่ไม่มีอยู่จริง การหลอกให้รัก โดยหลอกเข้ามาตีสนิท สร้างความสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อหวังเอาทรัพย์สิน การหลอกให้กลัว หรือ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แจ้งว่าท่านเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด หลอกให้โอนเงินให้ตรวจสอบ การหลอกขายยาและอาหารเสริม โดยหลอกขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือยา อ้างว่าสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้ ซึ่งอาจไม่ได้ผลจริงและเป็นอันตราย การหลอกขายประกันสุขภาพ โดยอ้างว่าเป็นตัวแทนจากบริษัทประกันสุขภาพ เพื่อขอข้อมูลส่วนตัวหรือขายประกันที่ไม่เป็นความจริง หรือการหลอกให้รับสวัสดิการผู้สูงอายุ โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานราชการที่ดูแลเรื่องบำนาญหรือสวัสดิการผู้สูงอายุ และขอข้อมูลส่วนตัวหรือขอให้โอนเงินเพื่อดำเนินการ ส่งผลทำให้ผู้สูงอายุตกเป็นเหยื่อถูกหลอกลวงทางออนไลน์เพิ่มขึ้น | ||
นายคารม ย้ำเตือนประชาชนให้ระมัดระวังจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในรูปแบบดังกล่าว และขอให้บุตรหลานคอยสอดส่องดูแลผู้สูงวัยในครอบครัว เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกหลอกลวงโดยมิจฉาชีพที่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบและป้องกันตนเอง เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อได้ง่าย ๆ ดังนี้ 1. นำเบอร์แปลกที่โทรเข้ามา เช็กใน Google ตรวจสอบประวัติเบอร์ผู้ใช้ 2. ค้นหาใน Facebook หากเบอร์โทรนั้นเคยผูกกับบัญชีเฟซบุ๊ก 3. ค้นหาทาง Line “เพิ่มเพื่อน” เลือกจาก “หมายเลขโทรศัพท์” ถ้าเบอร์โทรนั้นผูกกับไลน์ 4. โหลดแอปพลิเคชัน WHOSCALL เพื่อช่วยในการค้นหาตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ หรือเบอร์โทรศัพท์แปลก ๆ โดยแอปจะแจ้งเตือนได้ว่าเบอร์นั้นเป็นเบอร์ของใคร | ||
นอกจากนั้น หากประชาชนได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ สถานีตำรวจในพื้นที่ และสำหรับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ บนเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 (ได้ตลอด 24 ชั่วโมง) | ||
|
||
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92544 |
14 changes: 14 additions & 0 deletions
14
data/2025/01/19/ข่าวคณะโฆษก _4_9b0b37b0-f45f-486f-900c-7cb014b7e7dd.txt
This file contains bidirectional Unicode text that may be interpreted or compiled differently than what appears below. To review, open the file in an editor that reveals hidden Unicode characters.
Learn more about bidirectional Unicode characters
Original file line number | Diff line number | Diff line change |
---|---|---|
@@ -0,0 +1,14 @@ | ||
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-รัฐบาลเอาจริงสั่งจับหนักหลังยาเสพติดรูปแบบใหม่ มาพร้อมบุหรี่ไฟฟ้า “พอตเค” ใช้ยาเคผสมในน้ำยา เผยคนสูบมีสิทธิ์ตาย คนขายติดคุกแน่นอน | ||
|
||
|
||
วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 | ||
19/01/2568 | ||
พิมพ์ | ||
รัฐบาลเอาจริงสั่งจับหนักหลังยาเสพติดรูปแบบใหม่ มาพร้อมบุหรี่ไฟฟ้า “พอตเค” ใช้ยาเคผสมในน้ำยา เผยคนสูบมีสิทธิ์ตาย คนขายติดคุกแน่นอน | ||
รัฐบาลเอาจริงสั่งจับหนักหลังยาเสพติดรูปแบบใหม่ มาพร้อมบุหรี่ไฟฟ้า “พอตเค” ใช้ยาเคผสมในน้ำยา เผยคนสูบมีสิทธิ์ตาย คนขายติดคุกแน่นอน | ||
วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 เวลา 10.30 น. นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานทางปกครอง และกระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญต่อการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้ประเทศมีความมั่นคงปลอดภัยจากยาเสพติด โดยได้รับรายงานว่า ปัจจุบันมียาเสพติดแฝงเข้ามาในรูปแบบ “หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าผสมยาเค” หรือ ที่เรียกกันว่า “พอตเค” ซึ่งขณะนี้กำลังเป็นที่ระบาดหนักในกลุ่มนักเที่ยวกลางคืน | ||
ทั้งนี้ “เคตามีน” เป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ผู้เสพมีโทษ ทั้งจำคุกและปรับ ส่วนโทษของผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษจำคุกสูงถึง 7 ปี และโทษปรับไม่เกิน 7 แสน กรณีเป็นการกระทำเพื่อการค้าหรือการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 15 ปี และโทษปรับอาจสูงถึง 1.5 ล้านบาท โดยยาเคตามีน (ketamine) หรือ “ยาเค” เป็นยาควบคุม เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ในประเภท 2 โดยเคตามีนจะถูกใช้ในทางการแพทย์ แต่ในปัจจุบันมีการลักลอบนำยาเคตามีนไปใช้ในทางที่ผิดเพื่อหวังฤทธิ์ในการหลอนประสาท โดยผ่านวิธีการสูดดม หรือสูบควัน ทั้งนี้ หากใช้เคตามีนติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้เกิดการติดยาทั้งทางร่างกาย และจิตใจ ซึ่งทำให้เกิดโรคจิตได้ (psychosis) นอกจากนี้ การใช้เคตามีนที่มีปริมาณที่สูง ทำให้ร่างกายเกิดการอาเจียน ชัก สมองและกล้ามเนื้อขาดออกซิเจนได้ ซึ่งในบางรายถึงขั้นก่อให้เกิดการเสียชีวิต | ||
นโยบายปราบปรามยาเสพติด เป็นนโยบายหลักของรัฐบาล การนำเคตามีนไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย รัฐบาลพร้อมทุกภาคส่วนได้เดินหน้าปราบยาเสพติดทุกประเภท และร่วมกันป้องกัน แก้ไข หยุดยั้งการลักลอบผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย และการปราบปรามการแพร่ระบาดของ “หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าผสมยาเค” หรือ “พอตเค” | ||
ทั้งนี้ หากพบเห็นการลักลอบนำยาดังกล่าวไปใช้ในทางที่ผิด สามารถแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจทั่วประเทศหรือสายด่วน อย. 1556 กด 3 หรือโทร 0 2590 7343 หรือผ่าน Facebook : FDA Thai” | ||
|
||
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92545 |
17 changes: 17 additions & 0 deletions
17
data/2025/01/19/ข่าวคณะโฆษก _5_87b8b1c0-ca0b-4ec4-bb48-721b6ff74ebc.txt
This file contains bidirectional Unicode text that may be interpreted or compiled differently than what appears below. To review, open the file in an editor that reveals hidden Unicode characters.
Learn more about bidirectional Unicode characters
Original file line number | Diff line number | Diff line change |
---|---|---|
@@ -0,0 +1,17 @@ | ||
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-หนาวอีกรอบ..รัฐบาลเตือน ปีนี้หนาวนาน สัปดาห์นี้มาอีกระลอกและค่อย ๆ อุ่นขึ้น ขอ ปชช. รักษาดูแลสุขภาพ | ||
|
||
|
||
วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 | ||
19/01/2568 | ||
พิมพ์ | ||
หนาวอีกรอบ..รัฐบาลเตือน ปีนี้หนาวนาน สัปดาห์นี้มาอีกระลอกและค่อย ๆ อุ่นขึ้น ขอ ปชช. รักษาดูแลสุขภาพ | ||
หนาวอีกรอบ..รัฐบาลเตือน ปีนี้หนาวนาน สัปดาห์นี้มาอีกระลอกและค่อย ๆ อุ่นขึ้น ขอ ปชช. รักษาดูแลสุขภาพ | ||
วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 เวลา 12.00 น. นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงกลางสัปดาห์ จะยังมีอากาศหนาวเย็น ทั้งนี้ ขอแนะนำ ให้ประชาชนดูแลสุขภาพ ในช่วงอากาศหนาวเย็น ซึ่งมักพบการแพร่ระบาดโรคและภัยสุขภาพที่เกิดจากภัยหนาว จำนวน 4 กลุ่ม ดังนี้ | ||
1. โรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ โรคไข้หวัดใหญ่ ติดต่อจากการไอจามรดกัน หรือสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อร่วมกัน จะมีอาการไข้ ไอแห้ง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ เยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ เจ็บคอ และโรคปอดอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และเชื้อราบางชนิดที่ถุงลมปอด จากการหายใจหรือสัมผัสละอองฝอยน้ำมูก น้ำลายที่ปนเปื้อนเชื้อ จะมีอาการไข้ ไอ หายใจหอบเหนื่อย ซึ่งมักเป็นเฉียบพลัน พบได้ทุกกลุ่มอายุ แต่อาการจะรุนแรงในผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง และมีโรคประจำตัว | ||
2. โรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำ ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง เกิดจากการรับประทานอาหาร หรือน้ำที่มีการปนเปื้อนของเชื้อโรค มีอาการถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไป ใน 1 วัน อาจมีไข้หรืออาเจียนร่วมด้วย | ||
3. โรคติดต่อที่สำคัญในช่วงฤดูหนาว ได้แก่ โรคหัด และโรคมือ เท้า ปาก | ||
4. ภัยสุขภาพหรือการเสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องจากอากาศหนาวโดยไม่ทราบสาเหตุ ส่วนใหญ่เกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เนื่องจากไม่มีเครื่องนุ่งห่ม หรือเครื่องห่มกันหนาวที่เพียงพอ และมีประวัติการดื่มสุราเป็นประจำ | ||
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์อากาศช่วงวันที่ 19 – 24 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน จะทำให้ยังคงมีอากาศหนาวเย็นต่อไปตลอดสัปดาห์นี้ | ||
“รัฐบาลแนะนำให้ประชาชนป้องกันตนเองในช่วงอากาศหนาวด้วยการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ปรุงสุก ดื่มน้ำสะอาด และดูแลอนามัยส่วนบุคคล หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น หากมีอาการไอจาม มีน้ำมูก และควรสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่ในสถานที่ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ซึ่งจะช่วยป้องกันได้ทั้งโรคติดต่อทางเดินหายใจและโรคโควิด-19 รักษาร่างกายให้อบอุ่นด้วยเครื่องนุ่งห่มกันหนาวที่เพียงพอกับสภาพอากาศ และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” นางสาวศศิกานต์ กล่าว | ||
|
||
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92548 |
23 changes: 23 additions & 0 deletions
23
data/2025/01/19/ข่าวรอง นรม รมตนร _1_19dfdac4-0218-46d6-9de8-03024421567f.txt
Large diffs are not rendered by default.
Oops, something went wrong.
22 changes: 22 additions & 0 deletions
22
data/2025/01/19/ข่าวรอง นรม รมตนร _2_cfc18746-6a65-4e48-9d3a-56414a2ac04a.txt
This file contains bidirectional Unicode text that may be interpreted or compiled differently than what appears below. To review, open the file in an editor that reveals hidden Unicode characters.
Learn more about bidirectional Unicode characters
Original file line number | Diff line number | Diff line change |
---|---|---|
@@ -0,0 +1,22 @@ | ||
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-กระทรวงดีอี ประชุมรัฐมนตรีไทย – จีน ด้านดิจิทัล ครั้งที่ 2 ปูทางความร่วมมือยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลระหว่างสองประเทศ | ||
|
||
|
||
วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 | ||
19/01/2568 | ||
พิมพ์ | ||
กระทรวงดีอี ประชุมรัฐมนตรีไทย – จีน ด้านดิจิทัล ครั้งที่ 2 ปูทางความร่วมมือยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลระหว่างสองประเทศ | ||
กระทรวงดีอี ประชุมรัฐมนตรีไทย – จีน ด้านดิจิทัล ครั้งที่ 2 | ||
ปูทางความร่วมมือยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลระหว่างสองประเทศ | ||
เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2568 ณ โรงแรมอนันตรา ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพมหานคร นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย Vice Minister of Industry and Information Technology ร่วมเป็นประธานการประชุมระดับรัฐมนตรีไทย - จีน ว่าด้วยความร่วมมือด้านดิจิทัล ครั้งที่ 2 พร้อมเปิดทางนักธุรกิจจีนร่วมประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเปลี่ยนผ่านประเทศในโอกาสเฉลิมฉลอง 50 ปีสัมพันธ์ไทย – จีน | ||
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) พร้อมด้วย H.E. Mr. Zhang YunMing, Vice Minister of Industry and Information Technology (MIIT) สาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมเป็นประธานการประชุมระดับรัฐมนตรีไทย – จีน ว่าด้วยความร่วมมือด้านดิจิทัล (The 2nd Thai–China Ministerial Dialogue on Digital Economy Cooperation) ครั้งที่ 2 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง โดยมี ศ. (พิเศษ) วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอี ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า คณะผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง ณ โรงแรมอนันตรา ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ | ||
การประชุมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านนโยบาย และการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ กระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจดิจิทัลระหว่างไทย - จีนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ชัดเจน และต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นการยกระดับความร่วมมือด้านดิจิทัลระหว่างสองประเทศให้ก้าวหน้า และยึดประโยชน์ในรูปแบบที่ทั้งสองฝ่ายได้รับ | ||
นายประเสริฐ เปิดเผยว่า การประชุมปีนี้ถือเป็นโอกาสอันดีเพราะเป็นปีเฉลิมฉลองการครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย - จีน โดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เสนอให้ทั้งสองประเทศร่วมประกาศให้ปี 2568 เป็นปีทองแห่งมิตรภาพความสัมพันธ์ทางการทูต หรือ Golden Year of Friendship โดยไทยพร้อมร่วมมือกับจีนเพื่อส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกัน และร่วมกันแก้ปัญหาในภูมิภาค สร้างประชาคมที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน | ||
"การประชุมวันนี้มีการหารือประเด็นสืบเนื่องจากการประชุมครั้งที่ 1 และมีการหารือประเด็นเพิ่มเติมคือ การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านกฎระเบียบและนโยบายเกี่ยวกับการต่อต้านการหลอกลวงออนไลน์และการต่อต้านแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและมาตรการการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ซึ่งรัฐบาลไม่สามารถเพิกเฉยต่อประเด็นดังกล่าวได้ เพราะการหลอกลวงออนไลน์และปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน รวมถึงเศรษฐกิจและสังคมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ การพัฒนาทรัพยากรบุคคลก็ถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นความร่วมมือที่มีความสำคัญ ทั้งหมดเพื่อพัฒนาให้ประชาชนสามารถรู้เท่าทันอาชญากรรมออนไลน์ และทักษะที่จำเป็นในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งทั้งสองฝ่ายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหารือร่วมกันในวาระถัดไป" รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าว | ||
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน รัฐมนตรี MIIT ของจีนได้นำภาคเอกชนจีนที่ดำเนินกิจการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัลร่วมคณะเยือนไทยพร้อมกัน จำนวน 21 บริษัท ร่วมหารือ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และประสบการณ์ รวมถึงข้อเสนอกิจกรรมหรือโครงการความร่วมมือระหว่างกันในการประชุม Thailand - China Public and Private Sectors Joint Business Dialogues เพื่อแสวงหาและส่งเสริมความร่วมมือ อีกทั้งยกระดับความสัมพันธ์ไทย – จีนระหว่างภาคเอกชนให้มากขึ้น | ||
ทั้งนี้ ผศ.ดร.ณัฐพล ได้กล่าวถึงความร่วมมือระหว่าง ดีป้า กับภาคเอกชนของจีนที่ดำเนินงานต่อเนื่องในหลากหลายโครงการ เช่น การส่งเสริมอุตสาหกรรม Software, Hardware and Smart Devices, Digital Content และ Digital Services ผ่านมาตรการส่งเสริมและสนับสนุน การผลักดันดิจิทัลสตาร์ทอัพที่ส่งผลให้อุตสาหกรรมเติบโตขึ้นถึง 15% หรือกว่า 1.5 ล้านล้านหยวน รวมถึงการพัฒนา 'บัญชีบริการดิจิทัล' ที่เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนจีนนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลเข้าสู่การจัดจ้างภาครัฐ และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย ทั้งในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมสามารถเลือกใช้งานได้อย่างมั่นใจ | ||
ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวต่อว่า ความร่วมมือกับจีนจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการพัฒนาประเทศในหลายด้าน อาทิ การพัฒนากำลังคนดิจิทัลที่รัฐบาลมีโครงการที่จาส่งเสริมการยกระดับทักษะด้านดิจิทัลสำหรับคนไทย | ||
รุ่นใหม่ เพื่อศึกษาและเรียนรู้เทคโนโลยีดิจิทัลจากต่างประเทศ หรือความร่วมมือในโครงการในความรับผิดชอบของ ดีป้า ที่เริ่มดำเนินการแล้ว เช่น โครงการ OTOD หรือ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล (ชุมชนโดรนใจ) ที่ส่งเสริม | ||
การพัฒนาทักษะการใช้และซ่อมบำรุงโดรนเพื่อการเกษตรแก่เกษตรกรไทย เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน โครงการพัฒนา 5G Ambulance ซึ่งมีโอกาสที่จะเกิดจากความร่วมมือระหว่าง ดีป้า กับ ZTE และ หัวเว่ย รวมไปถึงโอกาสความร่วมมือครั้งใหม่ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเข้าเยี่ยมชมโครงการ Thailand Digital Valley ในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 19 ม.ค.) | ||
"ภาพรวมการหารือในวันนี้เป็นไปด้วยความราบรื่น ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนของจีนแสดงความกระตือรือล้นที่จะการพัฒนาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับฝ่ายไทย อีกทั้งมีความสนใจที่จะลงทุนและทำธุรกิจร่วมกับไทย เมื่อพิจารณาความพร้อมด้านดิจิทัล ข้อเสนอและสิทธิพิเศษด้านการลงทุน และความเป็นไปได้ในการขยายตลาดสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว | ||
|
||
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92542 |
13 changes: 13 additions & 0 deletions
13
data/2025/01/19/ข่าวรอง นรม รมตนร _3_fe409bb8-6e73-40e4-af43-20b823d6fe64.txt
This file contains bidirectional Unicode text that may be interpreted or compiled differently than what appears below. To review, open the file in an editor that reveals hidden Unicode characters.
Learn more about bidirectional Unicode characters
Original file line number | Diff line number | Diff line change |
---|---|---|
@@ -0,0 +1,13 @@ | ||
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-“รองนายกฯ ประเสริฐ” สั่ง เข้มผู้ขายมือถือ แท็บเล็ตทุกยี่ห้อ ไม่ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล | ||
|
||
|
||
วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 | ||
19/01/2568 | ||
พิมพ์ | ||
“รองนายกฯ ประเสริฐ” สั่ง เข้มผู้ขายมือถือ แท็บเล็ตทุกยี่ห้อ ไม่ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล | ||
“รองนายกฯ ประเสริฐ” สั่ง เข้มผู้ขายมือถือ แท็บเล็ตทุกยี่ห้อ ไม่ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล | ||
วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สั่ง สคส. คุมเข้มบริษัทผู้จำหน่ายและให้บริการเกี่ยวกับมือถือทุกยี่ห้อ รวมทั้ง Oppo และ realme ต้องไม่ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ไม่มีแอปพลิเคชันที่ผิดกฎหมายติดมากับโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต | ||
นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC เผยว่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ได้สั่งการให้ สคส. ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบและป้องกันไม่ให้ โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต มีการลงแอปพลิเคชันที่ผิดกฎหมาย หรือมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ซื้อมือถือ สคส. จึงได้เชิญบริษัทผู้จำหน่ายและให้บริการเกี่ยวกับมือถือทุกยี่ห้อ พร้อมหน่วยงานกำกับดูแล อาทิ สำนักงาน กสทช. ธนาคารแห่งประเทศไทย ETDA และ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เข้าร่วมประชุมในวันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2568 เวลา 13.00 น. ณ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เพื่อร่วมปกป้องและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนผู้ใช้มือถืออย่างเคร่งครัด และชี้แจงกฎหมายและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสรุปแนวทางป้องกันไม่ให้มือถือ และแท็บเล็ตที่วางจำหน่าย มีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลหรือมีแอปพลิเคชันที่ผิดกฎหมายติดมาพร้อมกับตัวเครื่อง | ||
ทั้งนี้หากประชาชนได้รับผลกระทบหรือเสียหายจากการถูกละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลจากกรณีดังกล่าว สามารถติดต่อทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 1118800 อีเมล saraban@pdpc.or.th | ||
|
||
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92549 |
11 changes: 11 additions & 0 deletions
11
data/2025/01/19/ด้านความมั่นคง _1_e3ba5ab0-e0d1-4ccd-8f5f-86e93e1d7e80.txt
This file contains bidirectional Unicode text that may be interpreted or compiled differently than what appears below. To review, open the file in an editor that reveals hidden Unicode characters.
Learn more about bidirectional Unicode characters
Original file line number | Diff line number | Diff line change |
---|---|---|
@@ -0,0 +1,11 @@ | ||
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-”เฉลิมชัย“ เดินหน้าสร้างความร่วมมือชุมชนชายฝั่ง สู่อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล พัฒนาการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในระดับพื้นที่อย่างยั่งยืน | ||
|
||
|
||
วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 | ||
”เฉลิมชัย“ เดินหน้าสร้างความร่วมมือชุมชนชายฝั่ง สู่อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล พัฒนาการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในระดับพื้นที่อย่างยั่งยืน | ||
”เฉลิมชัย“ เดินหน้าสร้างความร่วมมือชุมชนชายฝั่ง สู่อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล พัฒนาการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในระดับพื้นที่อย่างยั่งยืน | ||
”เฉลิมชัย“ เดินหน้าสร้างความร่วมมือชุมชนชายฝั่ง สู่อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล พัฒนาการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในระดับพื้นที่อย่างยั่งยืน | ||
วันที่ 17 มกราคม 2568 เวลา 13.30 น. ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานการประชุมสร้างความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของชุมชนชายฝั่ง และอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ครั้งที่ 1 เพื่อให้เครือข่ายชุมชนชายฝั่งและเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลในท้องที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าใจในบทบาทหน้าที่ของชุมชนชายฝั่ง ในการมีส่วนร่วมดูแลอนุรักษ์และป้องกันการทำลายทรัพยากรชายฝั่งทะเลและระบบนิเวศที่สำคัญได้อย่างถูกต้อง โดยมี นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ที่ปรึกษา รมว.ทส. นาวาตรี สุธรรม ระหงษ์ เลขานุการ รมว.ทส. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. และคณะผู้บริหาร ทส. พร้อมเครือข่ายชุมชนชายฝั่งกว่า 200 คน เข้าร่วมการประชุม ณ ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศ ป่าชายเลนสิรินาถราชินี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ | ||
รมว.ทส. กล่าวว่า เครือข่ายชุมชนชายฝั่งและเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล นับเป็นกำลังสำคัญต่อการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมทางทะเล โดยปัจจุบันมีเครือข่ายชุมชนชายฝั่งกว่า 745 ชุมชน มีสมาชิก 19,089 คน และอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลกว่า 30,225 คน โดยในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีเครือข่ายชุมชนชายฝั่ง 17 ชุมชน จำนวนสมาชิก 540 คน และอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล 930 คน ซึ่งเป็นกำลังพลสำคัญที่ช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ทั้งการฟื้นฟู การอนุรักษ์ และการป้องกัน ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษา ถ่ายทอดความรู้ และการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยสำรวจ รวมทั้งช่วยเหลือและสนับสนุนการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมต่าง ๆ และพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในระดับพื้นที่อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ หากพบสัตว์ทะเลหายาก หรือพบการกระทำความผิดสามารถแจ้งมายังสายด่วนพิทักษ์ป่าและรักษาทะเล โทร.1362 เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่เร่งเข้าตรวจสอบ และช่วยเหลือได้ทันท่วงทีต่อไป | ||
|
||
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92536 |
11 changes: 11 additions & 0 deletions
11
data/2025/01/19/ด้านความมั่นคง _2_c6e676c5-e14c-450e-b213-3e4578ba5414.txt
This file contains bidirectional Unicode text that may be interpreted or compiled differently than what appears below. To review, open the file in an editor that reveals hidden Unicode characters.
Learn more about bidirectional Unicode characters
Original file line number | Diff line number | Diff line change |
---|---|---|
@@ -0,0 +1,11 @@ | ||
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-”เฉลิมชัย“ เปิดโครงการ "รักษ์หาดไทยเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช" หวังลดปริมาณขยะตกค้างในระบบนิเวศทางทะเลอย่างมีส่วนร่ | ||
|
||
|
||
วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 | ||
”เฉลิมชัย“ เปิดโครงการ "รักษ์หาดไทยเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช" หวังลดปริมาณขยะตกค้างในระบบนิเวศทางทะเลอย่างมีส่วนร่ | ||
”เฉลิมชัย“ เปิดโครงการ "รักษ์หาดไทยเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช" หวังลดปริมาณขยะตกค้างในระบบนิเวศทางทะเลอย่างมีส่วนร่วม | ||
”เฉลิมชัย“ เปิดโครงการ "รักษ์หาดไทยเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช" หวังลดปริมาณขยะตกค้างในระบบนิเวศทางทะเลอย่างมีส่วนร่วม | ||
วันที่ 17 มกราคม 2568 เวลา 10.30 น. ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปิดโครงการ “รักษ์หาดไทยเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช“ พร้อมมอบอุปกรณ์เก็บขยะให้แก่ผู้แทนชุมชนจากกลุ่มฅนรักษ์ทะเลและชายหาดปากน้ำปราณ กลุ่มเกษตรกรทำประมงปากน้ำปราณ กลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งปากน้ำปราณ และเทศบาลตำบลปากน้ำปราณ และร่วมเก็บขยะบริเวณชายหาด ณ ชายหาดปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นอกจากนี้ ยังได้เยี่ยมชมนิทรรศการจากหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงฯ ที่มาจัดแสดงให้ความรู้แก่ประชาชนที่มาร่วมงาน และพบปะพูดคุยกับกลุ่มเครือข่ายภาคประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรม โดยมี นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ที่ปรึกษา รมว.ทส. นาวาตรี สุธรรม ระหงษ์ เลขานุการ รมว.ทส. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะผู้บริหาร ทส. ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ ภาคเอกชน เยาวชน ชุมชนชายฝั่ง อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล และประชาชนในพื้นที่ จำนวนกว่า 1,000 คน เข้าร่วมงาน | ||
รมว.ทส. กล่าวว่า กระทรวงฯ จัดกิจกรรมโครงการรักษ์หาดไทยเฉลิมพระเกียรติฯ ขึ้นเนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุ 26,469 วัน ในวันอังคารที่ 14 มกราคม 2568 เป็นสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราช แห่งพระราชวงศ์จักรี และเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชกรณียกิจด้วยความวิริยะอุตสาหะ ทรงมีพระราชปณิธานสืบสาน รักษา และต่อยอด ตามรอยพระราชบิดา ในการขจัดทุกข์บำรุงสุขแก่ปวงประชาราษฎร์ โดยเฉพาะในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในการจัดการขยะทะเลอย่างบูรณาการ มุ่งลดปริมาณขยะตกค้างในระบบนิเวศทางทะเล ที่ปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหาขยะทะเลติดอันดับ 10 ของโลก โดยร้อยละ 80 มีแหล่งที่มาจากบนบก ส่วนใหญ่เป็นขยะซึ่งย่อยสลายได้ยาก ก่อให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรและระบบนิเวศที่สำคัญ ได้แก่ ปะการัง หญ้าทะเล ป่าชายเลน และสัตว์ทะเลหายากใกล้สูญพันธุ์ รวมทั้งเพื่อเป็นแนวทางในการจัดการขยะทะเลอย่างเป็นระบบ สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิผล เกิดการอนุรักษ์รักษาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืนต่อไป | ||
|
||
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92537 |
24 changes: 24 additions & 0 deletions
24
data/2025/01/19/ด้านความมั่นคง _3_e0da3baa-8837-4394-874c-791f83a3363a.txt
Large diffs are not rendered by default.
Oops, something went wrong.
12 changes: 12 additions & 0 deletions
12
data/2025/01/19/ด้านวัฒนธรรมท่องเที่ยวฯ _1_647458fa-52e9-43cc-831b-00b3ceaa8179.txt
This file contains bidirectional Unicode text that may be interpreted or compiled differently than what appears below. To review, open the file in an editor that reveals hidden Unicode characters.
Learn more about bidirectional Unicode characters
Original file line number | Diff line number | Diff line change |
---|---|---|
@@ -0,0 +1,12 @@ | ||
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-ประธาน GTERC หารือ รมว.การท่องเที่ยวฯ เตรียมจัดงานประชุมสุดยอดเศรษฐกิจการท่องเที่ยวโลกในไทย | ||
|
||
|
||
วันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2568 | ||
ประธาน GTERC หารือ รมว.การท่องเที่ยวฯ เตรียมจัดงานประชุมสุดยอดเศรษฐกิจการท่องเที่ยวโลกในไทย | ||
ประธาน GTERC หารือ รมว.การท่องเที่ยวฯ เตรียมจัดงานประชุมสุดยอดเศรษฐกิจการท่องเที่ยวโลกในไทย | ||
วันที่ 17 มกราคม 2568 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้พบปะหารือร่วมกับ นางแพนซี โฮ ประธานศูนย์วิจัยเศรษฐกิจการท่องเที่ยวโลก (Global Tourism Economy Research Center - GTERC) เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดงาน Global Tourism Economy Forum (GTEF) 2025 ในประเทศไทย การหารือดังกล่าวจัดขึ้น ณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยมีนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางสาววนิดา พันธ์สอาด รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะเจ้าหน้าที่ GTERC เข้าร่วมด้วย | ||
นางแพนซี โฮ ได้กล่าวถึงความสำคัญของงาน GTEF ในฐานะเวทีระดับนานาชาติที่เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรมเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว โดยระบุว่า งาน Global Tourism Economy Forum (GTEF) เป็นฟอรัมระดับนานาชาติที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่มาเก๊าตั้งแต่ปี 2555 มีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับเศรษฐกิจโลกและความยั่งยืน และได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรระดับโลก เช่น UNWTO PATA และ WTTC โดยมีผู้เข้าร่วมมากกว่าพันคนจากหลากหลายประเทศทั่วโลก พร้อมระบุว่า GTEF 2025 จะเป็นครั้งแรกที่งานนี้จัดขึ้นนอกมาเก๊า ซึ่งสะท้อนถึงความไว้วางใจในศักยภาพของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ที่มีประสบการณ์ในการจัดงานระดับนานาชาติ และมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน | ||
นางแพนซี โฮ ยังชี้ให้เห็นว่า การจัดงานในประเทศไทยไม่เพียงแต่ส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศในฐานะผู้นำด้านการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2568 และคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ต่อเศรษฐกิจไทยประมาณ 30 ล้านเหรียญสหรัฐจากการจัดงานครั้งนี้ | ||
ด้าน รมว.การท่องเที่ยวฯ ได้แสดงความขอบคุณและยินดีที่ GTERC ให้ความสนใจที่จะมาจัดงาน GTEF 2025 ในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของประเทศ อย่างไรก็ตาม การร่วมเป็นเจ้าภาพ GTEF 2025 เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน จึงขอเวลาหารือภายในเพิ่มเติมก่อน พร้อมยืนยันว่าจะนำรายละเอียดการหารือวันนี้รายงานต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป | ||
|
||
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92532 |
16 changes: 16 additions & 0 deletions
16
data/2025/01/19/ด้านวัฒนธรรมท่องเที่ยวฯ _2_0138087a-0294-4604-9936-906981aa66dd.txt
This file contains bidirectional Unicode text that may be interpreted or compiled differently than what appears below. To review, open the file in an editor that reveals hidden Unicode characters.
Learn more about bidirectional Unicode characters
Original file line number | Diff line number | Diff line change |
---|---|---|
@@ -0,0 +1,16 @@ | ||
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-"รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา" เปิดแถลงข่าวฉลอง 50 ปี ไทย-จีน เตรียมจัดเทศกาลตรุษจีนยิ่งใหญ่ กระตุ้นรายได้ท่องเที่ยว 4 หมื่นล้านบาท | ||
|
||
|
||
วันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2568 | ||
"รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา" เปิดแถลงข่าวฉลอง 50 ปี ไทย-จีน เตรียมจัดเทศกาลตรุษจีนยิ่งใหญ่ กระตุ้นรายได้ท่องเที่ยว 4 หมื่นล้านบาท | ||
"รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา" เปิดแถลงข่าวฉลอง 50 ปี ไทย-จีน เตรียมจัดเทศกาลตรุษจีนยิ่งใหญ่ กระตุ้นรายได้ท่องเที่ยว 4 หมื่นล้านบาท | ||
วันที่ 17 มกราคม 2568 เวลา 15.15 น. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย เป็นประธานในงานแถลงข่าวการจัดเทศกาลตรุษจีนประเทศไทย ประจำปี 2568 เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและจีน ณ กรุงเทพมหานคร โดยมีนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และโฆษกกระทรวงฯ นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมในพิธี | ||
รมว.สรวงศ์ เปิดเผยว่า การจัดเทศกาลตรุษจีนในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและจีน พร้อมทั้งผลักดันประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญในเทศกาลตรุษจีนระดับโลก ภายใต้แนวคิด "Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025" ซึ่งเป็นแผนสำคัญของรัฐบาลในการกระตุ้นการท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว และยกระดับเศรษฐกิจไทย | ||
เทศกาลตรุษจีนยิ่งใหญ่ระดับชาติ | ||
สำหรับเทศกาลตรุษจีนปีนี้ จะมีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ในหลากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ อาทิ กรุงเทพมหานคร, จังหวัดสุพรรณบุรี, จังหวัดนครสวรรค์ และอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยจะเน้นการผสมผสานวัฒนธรรมไทย-จีน และจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ คาดการณ์ว่าจะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจสูงถึง 40,660 ล้านบาท | ||
นายสรวงศ์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า งานเทศกาลตรุษจีนนี้ไม่เพียงช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ แต่ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค สร้างโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการท่องเที่ยว พร้อมส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม | ||
ความร่วมมือเพื่อความสำเร็จ | ||
ในงานนี้ มีผู้แทนจากหน่วยงานสำคัญหลายแห่งเข้าร่วม อาทิ นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), พลตำรวจโท ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว, ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร, รวมถึงผู้แทนจากจังหวัดสุพรรณบุรี นครสวรรค์ และสงขลา | ||
นายสรวงศ์ปิดท้ายว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมสนับสนุนความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการผลักดันการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน และขอเชิญชวนประชาชนทุกคนร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกในเทศกาลตรุษจีนปีนี้ เพื่อแสดงถึงพลังความร่วมมือและความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมของไทย | ||
|
||
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92533 |
19 changes: 19 additions & 0 deletions
19
data/2025/01/19/ด้านวัฒนธรรมท่องเที่ยวฯ _3_0dc968a9-e44a-4670-8485-873324ec6c84.txt
This file contains bidirectional Unicode text that may be interpreted or compiled differently than what appears below. To review, open the file in an editor that reveals hidden Unicode characters.
Learn more about bidirectional Unicode characters
Original file line number | Diff line number | Diff line change |
---|---|---|
@@ -0,0 +1,19 @@ | ||
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดการประกวดวงโยธวาทิตชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2568 ส่งเสริมเยาวชนพัฒนาศักยภาพผ่านดนตรี | ||
|
||
|
||
วันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2568 | ||
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดการประกวดวงโยธวาทิตชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2568 ส่งเสริมเยาวชนพัฒนาศักยภาพผ่านดนตรี | ||
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดการประกวดวงโยธวาทิตชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2568 ส่งเสริมเยาวชนพัฒนาศักยภาพผ่านดนตรี | ||
วันที่ 17 มกราคม 2568 เวลา 17.30 น. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดการประกวดวงโยธวาทิตชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2568 จัดโดยกรมพลศึกษา ณ สนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยมี นายจักรพรรด์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายจิรพัฒน์ สัจยากร คณะที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางสาววนิดา พันธ์สอาด รองปลัดกระทรวง | ||
การท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายจรูญ แก้วมุกดากุล รองอธิบดีกรมพลศึกษา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพลศึกษา และผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธี | ||
รมว.นายสรวงศ์ กล่าวในพิธีว่า "กิจกรรมดนตรีเป็นพลังสำคัญในการสร้างสรรค์และพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์" โดยการประกวดวงโยธวาทิตครั้งนี้มุ่งเน้นการส่งเสริมเยาวชนให้เห็นคุณค่าและประโยชน์ของกิจกรรมนันทนาการ โดยเฉพาะดนตรี ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมสร้างระเบียบวินัย ความสามัคคี และความคิดสร้างสรรค์ อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงความสามารถทางดนตรีอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสถานศึกษาและชุมชน | ||
กิจกรรมส่งเสริมเยาวชน สร้างคุณค่าและพัฒนาศักยภาพ | ||
การประกวดวงโยธวาทิตชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2568 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 มกราคม 2568 ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมนันทนาการในเด็กและเยาวชน โดยแบ่งการประกวดออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ | ||
ประเภทเดินแถวมาร์ชชิ่ง จัดขึ้นในวันที่ 17 มกราคม 2568 ณ สนามศุภชลาศัย | ||
ประเภทนั่งบรรเลง สำหรับ 2 รุ่นอายุ คือ รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี และรุ่นอายุไม่เกิน 25 ปี จัดขึ้นในวันที่ 18-19 มกราคม 2568 ณ อาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ | ||
การประกวดในครั้งนี้ยังมีการมอบเงินรางวัลและทุนส่งเสริมแก่ผู้ชนะการประกวดในแต่ละประเภท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและแรงสนับสนุนให้เยาวชนได้พัฒนาศักยภาพตนเองอย่างต่อเนื่อง | ||
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาย้ำ ดนตรีสร้างอนาคตเยาวชน | ||
นายสรวงศ์ได้กล่าวชื่นชมเยาวชนที่เข้าร่วมการประกวดในครั้งนี้ รวมถึงทีมงานผู้ฝึกสอนและผู้สนับสนุนที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันโครงการนี้ พร้อมส่งกำลังใจให้เยาวชนได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ตนเอง สถาบัน และประเทศไทย | ||
"ดนตรีไม่เพียงแค่สร้างความบันเทิง แต่ยังช่วยกล่อมเกลาจิตใจ พัฒนาทักษะชีวิต และสร้างความเป็นผู้นำในอนาคต ผมขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในโครงการครั้งนี้ และหวังว่าเวทีนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนก้าวสู่ความสำเร็จต่อไป" นายสรวงศ์กล่าวปิดท้าย | ||
|
||
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92534 |
19 changes: 19 additions & 0 deletions
19
data/2025/01/19/ด้านวัฒนธรรมท่องเที่ยวฯ _4_bb4c4547-e90e-4763-8db8-e0611b9a3ad9.txt
This file contains bidirectional Unicode text that may be interpreted or compiled differently than what appears below. To review, open the file in an editor that reveals hidden Unicode characters.
Learn more about bidirectional Unicode characters
Original file line number | Diff line number | Diff line change |
---|---|---|
@@ -0,0 +1,19 @@ | ||
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-“สรวงศ์” ย้ำ “เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์” ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยกระดับการท่องเที่ยวไทยสู่เวทีโลก | ||
|
||
|
||
วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 | ||
“สรวงศ์” ย้ำ “เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์” ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยกระดับการท่องเที่ยวไทยสู่เวทีโลก | ||
“สรวงศ์” ย้ำ “เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์” ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยกระดับการท่องเที่ยวไทยสู่เวทีโลก | ||
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจร หรือ “เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์” ว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยยกระดับเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยตอบสนองความต้องการสถานที่จัดงานระดับโลก และสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้หลากหลายกลุ่ม | ||
ชี้แจงข้อกังวลเรื่องการฟอกเงิน : | ||
นายสรวงศ์กล่าวถึงข้อกังวลที่มีคนมองว่าโครงการนี้อาจนำไปสู่การฟอกเงินว่า รัฐบาลได้กำหนดหลักเกณฑ์การควบคุมไว้อย่างรัดกุม มีองค์กรกลางที่ทำหน้าที่กำกับดูแลโดยเฉพาะ และจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด “การขับเคลื่อนนี้เป็นการนำสิ่งที่เคยอยู่ใต้ดินขึ้นมาบนดิน ขอให้ประชาชนไว้วางใจ เราไม่ได้ผ่านกฎหมายเพื่อเปิดกาสิโน แต่เป็นการสร้างสถานบันเทิงครบวงจรที่มีองค์ประกอบหลากหลาย โดยกาสิโนเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ซึ่งแทบไม่มีตัวตนในโครงการนี้” นายสรวงศ์กล่าว | ||
เน้นสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่-เวิลด์คลาสอีเว้นท์ : | ||
รมว.ท่องเที่ยวฯ อธิบายว่า “เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์” เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้นใหม่ เพื่อตอบโจทย์การจัดงานระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต งานกีฬา หรือเวิลด์คลาสอีเว้นท์ที่ประเทศไทยยังไม่มีโครงสร้างรองรับ “สิ่งที่รัฐทำไม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เอกชนสามารถทำได้ เราจึงต้องเดินหน้าโครงการนี้เพื่อสร้างจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวแบบใหม่” | ||
นายสรวงศ์ยังชี้ว่า ปัจจุบันการท่องเที่ยวของไทยยังพึ่งพาแหล่งท่องเที่ยวเดิม เช่น โบราณสถานและธรรมชาติ ซึ่งถูกทำลายลงทุกวัน การสร้างเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์จะช่วยเสริมศักยภาพให้ไทยสามารถแข่งขันในตลาดการท่องเที่ยวโลก เช่นเดียวกับประเทศสิงคโปร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างชัดเจนหลังการเปิดตัวสถานบันเทิงครบวงจร | ||
ตัวเลขรายได้ที่คาดว่าจะเกิดจากโครงการ : | ||
จากการคาดการณ์เบื้องต้น โครงการเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์จะสามารถดึงดูดการลงทุนมากกว่า 100,000 ล้านบาทต่อโครงการ และสร้างรายได้ให้ประเทศไทยประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดค่าใบอนุญาตไว้ที่ 5,000 ล้านบาทต่อสัมปทาน และค่าธรรมเนียมรายปีอีก 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของภาครัฐ ทั้งนี้ โครงการยังสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้ถึง 5-20% และเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อหัวของนักท่องเที่ยวจาก 40,000 บาท เป็น 60,000 บาทต่อคนต่อทริป | ||
“ประเทศไทยมีแต่ได้กับได้” | ||
“เราไม่ได้มองเพียงแค่จำนวนของนักท่องเที่ยว แต่เราต้องการนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง หากเราขับเคลื่อนแหล่งท่องเที่ยวเดิมควบคู่กับแหล่งใหม่ ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์ทั้งเศรษฐกิจ การจ้างงาน และภาพลักษณ์ที่ยกระดับขึ้นสู่มาตรฐานโลก” รมว.ท่องเที่ยวฯ กล่าวทิ้งท้าย | ||
โครงการเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์จึงถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทย ที่พร้อมจะสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในระยะยาว | ||
|
||
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92550 |
13 changes: 13 additions & 0 deletions
13
data/2025/01/19/ด้านวัฒนธรรมท่องเที่ยวฯ _5_df463cac-ea6f-4c8a-b87c-316d3c38985e.txt
This file contains bidirectional Unicode text that may be interpreted or compiled differently than what appears below. To review, open the file in an editor that reveals hidden Unicode characters.
Learn more about bidirectional Unicode characters
Original file line number | Diff line number | Diff line change |
---|---|---|
@@ -0,0 +1,13 @@ | ||
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-รมว.กก. หารือ PATA สนับสนุนการจัดงาน Destination Marketing Forum | ||
|
||
|
||
วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 | ||
รมว.กก. หารือ PATA สนับสนุนการจัดงาน Destination Marketing Forum | ||
รมว.กก. หารือ PATA สนับสนุนการจัดงาน Destination Marketing Forum | ||
เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2568 เวลา 18.30 น. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางสาฐปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่การการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แและคณะผู้บริหาร ได้พบหารือกับนายนูร์ อาหมัด ฮามิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (Pacific Asia Travel Association: PATA) ณ Axis Lounge โรงแรมฮิลตัน เมืองยะโฮร์บาห์รู ประเทศมาเลเซีย | ||
การพบกันในครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้รับทราบกิจกรรมที่ PATA จะดำเนินการร่วมกับไทยในปี พ.ศ. 2568 พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ข้อมูลเกี่ยวกับยุทธศาสตร์และประเด็นสำคัญด้านการท่องเที่ยวของไทย รวมถึงพิจารณาโอกาสในการร่วมมือเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกับไทยในอนาคต โดยนายสรวงศ์ เทียนทอง ได้กล่าวถึงนโยบายสำคัญที่จะผลักดันการท่องเที่ยวของไทยให้ก้าวสู่ระดับโลก และพัฒนาศักยภาพของประเทศในฐานะศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ | ||
ที่ผ่านมา ไทยมุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกเรื่องการตรวจลงตราสำหรับนักท่องเที่ยว การส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองน่าเที่ยว ผ่านแคมเปญต่าง ๆ การท่องเที่ยวที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และการท่องเที่ยวเรือสำราญ อีกทั้ง มาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในไทยอย่างทั่วถึงและครอบคลุมทั้งประเทศ และในปี พ.ศ. 2568 จะเป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 และไทยจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬา โดยหวังว่าปีแห่งการท่องเที่ยวไทยจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากนอกภูมิภาคให้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศ และกระจายนักท่องเที่ยวไปยังประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน | ||
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้กล่าวแสดงความยินดีกับการครอบรอบการก่อตั้งสำนักงานใหญ่ PATA ในกรุงเทพฯ และกล่าวชื่นชมความสำเร็จในการจัดงาน PATA Travel Mart เมื่อปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา และเน้นย้ำจุดยืนของไทยในการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ โดยพร้อมสนับสนุนความร่วมมือกับ PATA | ||
ทั้งนี้ PATA ได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเข้าร่วมงาน PATA Travel Mart ครั้งที่ 48 ในวันที่ 26 สิงหาคม 2568 ณ กรุงเทพมหานคร งาน PATA Annual Summit 2025 ณ กรุงอิสตันบลู ประเทศตุรกี รวมถึงงาน Destination Marketing Forum 2025 ในเดือนพฤศจิกายน 2568 ณ จังหวัดเชียงราย เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางของการจัดประชุมในระดับนานาชาติ โดยเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง PATA สสปน. อพท. ททท. และจังหวัดเชียงราย | ||
|
||
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92551 |
10 changes: 10 additions & 0 deletions
10
data/2025/01/19/ด้านวัฒนธรรมท่องเที่ยวฯ _6_0540ff7e-53f3-4d47-9c81-50b328f51d07.txt
This file contains bidirectional Unicode text that may be interpreted or compiled differently than what appears below. To review, open the file in an editor that reveals hidden Unicode characters.
Learn more about bidirectional Unicode characters
Original file line number | Diff line number | Diff line change |
---|---|---|
@@ -0,0 +1,10 @@ | ||
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-รมว. กก.ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าว CNN เพื่อประชาสัมพันธ์ปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬา Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 | ||
|
||
|
||
วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 | ||
รมว. กก.ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าว CNN เพื่อประชาสัมพันธ์ปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬา Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 | ||
รมว. กก.ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าว CNN เพื่อประชาสัมพันธ์ปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬา Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 | ||
เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2568 เวลา 19.00 น. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว CNN โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานำเสนอการตั้งเป้าหมายตัวเลขนักท่องเที่ยวในปี พ.ศ. 2568 ประมาณ 40 ล้านคน และรัฐบาลมุ่งเน้นการดำเนินการตามนโยบาย IGNITE Thailand เพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว | ||
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ประชาสัมพันธ์ให้ปี พ.ศ. 2568 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬา “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวและมหกรรมกีฬา ชูความโดดเด่นด้วย 5 แคมเปญหลัก ได้แก่ (1) Grand Festival (2) Grand Moment (3) Grand Privilege (4) Grand Invitation และ (5) Grand Celebration พร้อมบูรณาการส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกับภาคเอกชน โดยนอกจากจะส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยแล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการช่วยส่งเสริมการกระจายนักท่องเที่ยวสู่ภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย | ||
|
||
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92552 |
10 changes: 10 additions & 0 deletions
10
data/2025/01/19/ด้านวัฒนธรรมท่องเที่ยวฯ _7_33638ab3-76ad-4db4-856f-42e9632249c5.txt
This file contains bidirectional Unicode text that may be interpreted or compiled differently than what appears below. To review, open the file in an editor that reveals hidden Unicode characters.
Learn more about bidirectional Unicode characters
Original file line number | Diff line number | Diff line change |
---|---|---|
@@ -0,0 +1,10 @@ | ||
รัฐบาลไทย-ข่าวทำเนียบรัฐบาล-เปิดฉากพิธีเปิดการประชุม ATF 2025 ณ เมืองยะโฮร์บาห์รู มาเลเซีย | ||
|
||
|
||
วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 | ||
เปิดฉากพิธีเปิดการประชุม ATF 2025 ณ เมืองยะโฮร์บาห์รู มาเลเซีย | ||
เปิดฉากพิธีเปิดการประชุม ATF 2025 ณ เมืองยะโฮร์บาห์รู มาเลเซีย | ||
เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2568 เวลา 20.00 น. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และคณะผู้บริหาร ได้เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมด้านการท่องเที่ยวอาเซียน ปี พ.ศ. 2568 (ASEAN Tourism Forum 2025: ATF 2025) ณ ศูนย์ประชุม Persada Johor ยะโฮร์บาห์รู สหพันธรัฐมาเลเซีย โดยมีดาโต๊ะ ศรี ฮัจญี ฟาดิลละห์ บิน ฮัจญี ยูโซ๊ะ รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายเทียง คิง สิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรมมาเลเซีย และผู้บริหารระดับสูงเป็นผู้กล่าวเปิดพิธีร่วม | ||
ภายในงานประกอบด้วยงานเลี้ยงรับรองรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน คู่ภาคี คณะทูตานุทูต หน่วยงานด้านการท่องเที่ยว และสื่อมวลชนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงมีการแสดงทางวัฒนธรรมที่ตระการตา อาทิ การเต้นระบำของชนพื้นเมือง และการแสดงประจำชาติสมาชิกอาเซียนต่าง ๆ โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพ สร้างความประทับใจให้แก่ผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก | ||
|
||
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92553 |
Oops, something went wrong.